พลศักดิ์ ถาม เจ้าแม่กวนอิม ตอบ 17 ธันวาคม 2554

“นิพพานระดับบุคคลศูนยตาและนิพพานระดับธรรมศูนยตา”

(ธรรมะวันนี้ยากมาก  ต้องอ่านช้าๆ หลายๆ รอบ จึงจะเข้าใจ)

พลศักดิ์   ผมขอลองสรุปธรรมะชั้นสูงสุดที่เรียนรู้จากท่านสักครั้งนะครับ  ผมสรุปดังนี้ได้ไหม

ธรรมะชั้นสูงสุดขั้นนิพพานมี 2 ระดับ  เรียกแบบมหายาน คือ

1.    ระดับบุคคลศูนยตา

2.    ระดับธรรมศูนยตา

ระดับบุคคลศูนยตา  พระอรหันต์ที่ตายลง ขันธ์ 5 และวิญญาณในขันธ์ 5 ของท่านสลาย กายทิพย์มนุษย์ดวงใหม่ หรืออาทิสมานกายดวงใหม่ หรือวิญญาณธาตุดวงใหม่ ของท่านก็ไม่มี เพราะท่านหมดกิเลสแล้ว อาทิสมานกายเป็นตัวที่วนเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ จึงหมดไป

สิ่งที่เหลืออยู่ของพระอรหันต์  คือ กายแท้จริง หรือ ธรรมกาย ธรรมกายตัวนี้อยู่ในนิโรธ ถ้าท่านต้องการมาช่วยสรรพชีวิตต่อไป ท่านต้องเนรมิตกายทิพย์อมตะ ที่มหายานเรียกว่า สัมโภคกาย ศาสนาคริสต์เรียกว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ออกมา

ที่อยู่ของธรรมกายอยู่ในพุทธภูมิ ที่อยู่ของกายทิพย์อมตะ ที่มหายานเรียกว่า สัมโภคกาย อยู่ในพุทธเกษตร พุทธภูมิเป็นเขตหนึ่งในพุทธเกษตร พุทธเกษตรก็คือแดนนิพพาน นั่นเอง

เรื่องบุคคลศูนยตาที่ผมสรุป ผมเข้าใจถูกไหมครับ

เจ้าแม่กวนอิม  เธอไม่ได้เข้าใจผิดอะไร เธอพูดต่อเลย

พลศักดิ์   ระดับ 2 เป็นระดับธรรมศูนยตา พระอรหันต์ที่ตายลงบางองค์ ไม่ได้เข้าไปในแดนนิพพานหรือ ไม่ได้เข้าไปในพุทธเกษตรแต่อย่างใด แต่ท่านอาจจะดิ่งเข้าไปในแดนนิพพานที่เป็นของว่าง(ปรินิพพาน)เลย ซึ่งนิพพานชนิดนี้เป็นนิพพานแท้ อยู่ในระดับธรรมศูนยตา ไม่ได้มีบ้านเมือง ไม่ได้มีกาย

นี่เป็นเหตุที่หลวงปู่ดู่ พูดถึงวิมานแก้ว กุฏิแก้ว ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นธรรมะระดับบุคคลศูนยตา ต่อมาท่านเดินจิตต่อไปเรื่อยหลังพระ 4 องค์ จึงพบว่า แดนนิพพานจริงๆไม่มีอะไรเลย เป็นของว่าง แต่ไม่สูญ อันนี้เป็นธรรมะ ระดับธรรมศูนยตา 

ปรินิพพานที่พระพุทธเจ้าพูดถึง คือ ธรรมะระดับธรรมศูนยตา ไม่ได้มีบ้านเมือง เป็นที่ว่างเฉยๆ ในขณะที่นิพพานเป็นระดับบุคคลศูนยตา มีบ้านเมือง มีวิมานแก้ว มีกุฏิแก้ว

....ผมสรุปทั้งหมดอย่างนี้ใช้ได้หรือเปล่าครับ

เจ้าแม่กวนอิม  เธอได้ปัญญาพุทธะอีกระดับแล้ว แดนนิพพานจริงๆไม่มีอะไรเลย เป็นสภาพของว่าง แต่ไม่สูญ เพราะมีดวงจิต ซึ่งไม่ต้องการแสดงรูปเป็นอะไรทั้งนั้นอยู่ แต่ที่เธอสรุปยังคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง ผู้ที่จะเข้าปรินิพพานได้ จะต้องผ่านระดับนิพพาน ที่มีบ้านเมืองให้ได้ก่อน

พลศักดิ์   อย่างนั้นผมสรุปอย่างนี้ดีไหมว่า นิพพานที่เป็นบุคคลศูนยตา ยังมีธรรมกาย มีกายทิพย์อมตะ และมีอายตนะนิพพานที่เป็นเมืองอยู่ในพุทธเกษตร 

ส่วนนิพพานที่เป็นธรรมศูนยตา หรือ ปรินิพพาน ไม่ได้มีบ้านเมือง เป็นที่ว่างเฉยๆ พระอรหันต์ที่อยู่ในนิพพานที่เป็นธรรมศูนยตา ท่านจะไม่มีรูป(เป็นอรูป) หรืออาจจะอยู่เป็นดวงแสงที่สุกสกาว(ดวงธรรม)เฉยๆก็ได้

เจ้าแม่กวนอิม  ช่าย...แต่ไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ตอนสุดท้ายเธอยังสรุปผิดอยู่ แสงนั้นไม่ใช่ปรินิพพาน มีแสงคือ ธรรมศูนยตา(ปรินิพพาน) ออกมาสร้างบ้านเมืองอยู่ในพุทธเกษตรแล้ว